: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
ภาษีศุลกากร ที่เข้มงวดของปักกิ่งทำให้เกิดสงครามการค้าที่เข้มข้นกับวอชิงตัน
CNBC China Economy : Anniek Bao @in/anniek-bao-460a48107/ @anniekbyx
Evelyn Cheng @in/evelyn-cheng-53b23624 @chengevelyn
จุดสำคัญ
ความเสี่ยงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่รุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ หลังจากปักกิ่งตอบโต้มาตรการภาษีล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ อย่างรุนแรงมากกว่าที่หลายคนคาดไว้
นอกจากนี้ จีนยังยกเลิกการเรียกร้องให้เจรจาเรื่องการค้าในแถลงการณ์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งประณามการจัดเก็บภาษีของสหรัฐฯ ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดการปรับขึ้นภาษีเป็นเวลานานขึ้น
Eurasia Group กล่าวในบันทึกว่า’ท่าทีที่ก้าวร้าวของปักกิ่งเป็นสัญญาณว่าการตอบโต้ในอนาคตจะรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น และเพิ่มโอกาสในการแยกตัวออกจากกันโดยไม่ได้รับการจัดการในปี 2568’
China’s and U.S.′ flags are seen printed on paper in this illustration taken January 27, 2022.
Dado Ruvic | Reuters
ปักกิ่ง-นักวิเคราะห์เผยว่าความเสี่ยงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่รุนแรงกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ปักกิ่งตอบโต้มาตรการภาษีล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ อย่างรุนแรงมากกว่าที่หลายคนคาดไว้
นอกจากนี้ จีนยังยกเลิกการเรียกร้องให้เจรจาเรื่องการค้าในแถลงการณ์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งประณามการจัดเก็บภาษีของสหรัฐฯ ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดการปรับขึ้นภาษีเป็นเวลานานขึ้น
“จีน ได้ใช้และจะใช้มาตรการที่เด็ดขาดเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของตน” กระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์
ปักกิ่ง ตอบโต้ด้วยการจัดเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมด 34% ในวันศุกร์ ซึ่งตรงกับอัตราภาษีล่าสุดของรัฐบาลทรัมป์ นอกเหนือจากภาษี 10-15% ที่จีนจัดเก็บในเดือนมีนาคมและกุมภาพันธ์ซึ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและพลังงานที่นำเข้าจากสหรัฐฯ
แอนดี้ เซีย นักเศรษฐศาสตร์อิสระจากเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า “การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดของสหรัฐฯ ในปริมาณเท่ากับภาษีล่าสุดของทรัมป์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีนที่จะไปให้ถึงที่ที่สหรัฐฯ ต้องการ”
ในฐานะส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้ที่กว้างขวาง ปักกิ่งยังได้กำหนดมาตรการควบคุมการส่งออกธาตุหายากที่สำคัญห้ามการส่งออกสิ่งของที่ใช้ได้สองทางไปยังนิติบุคคลของสหรัฐฯ จำนวน 12 แห่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทในอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศและอวกาศ และใส่บริษัทสหรัฐฯ เพิ่มอีก 11 แห่งเข้าไปใน“รายชื่อนิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ”ซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่กว้างขึ้นขณะดำเนินกิจการในจีน
“ท่าทีที่ก้าวร้าวของปักกิ่งส่งสัญญาณว่าการตอบโต้ในอนาคตจะรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น และเพิ่มโอกาสในการแยกตัวออกจากกันโดยไม่ได้รับการจัดการในปี 2568” ทีมนักวิเคราะห์จาก Eurasia Group กล่าวในบันทึก
นักวิเคราะห์ของ Eurasia Group กล่าวว่าการตอบสนองของจีนน่าจะกระตุ้นให้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมอีก เพื่อพยายามป้องกันไม่ให้พันธมิตรทางการค้ารายอื่นดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า ‘เจ้าหน้าที่ของทรัมป์บางคนมองว่านี่เป็นเวลาพิเศษที่จะกดดันจีนให้มากขึ้น เพื่อเร่งการแยกความสัมพันธ์ทางการค้า’
การตอบสนองอย่างรวดเร็วของปักกิ่งเกิดขึ้นจากการที่ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีจีนเพิ่มเติม 34% ส่งผลให้อัตราภาษีเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของสหรัฐฯ ต่อจีนเพิ่มสูงถึง 65% ตามที่โรบิน ซิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของ Morgan Stanley กล่าว
Xing ประมาณการว่า สิ่งนี้ อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกได้ 1.5 ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ โดยอ้างถึงการเติบโตของการส่งออกที่ช้าลงและภาวะเงินฝืดในประเทศที่ฝังรากลึก
การเจรจาหยุดชะงัก
การเปลี่ยนแปลงของปักกิ่งไปสู่จุดยืนที่ 'ก้าวร้าวและลุกลาม' มากขึ้นทำให้ข้อตกลงในระยะใกล้ที่จะยุติสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจนั้น’ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้’นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics กล่าว
จนกระทั่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การกระทำของปักกิ่งถูกมองว่าค่อนข้างยับยั้งชั่งใจและรอบคอบ ทรัมป์ยังได้แสดงความเห็นชื่นชมประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนและแสดงความสนใจที่จะจัดการประชุมทวิภาคี
Gabriel Wildau กรรมการผู้จัดการของ Teneo กล่าวในบันทึกว่า 'การละทิ้งความยับยั้งชั่งใจ' ในมาตรการตอบโต้ล่าสุดของปักกิ่งน่าจะสะท้อนให้เห็นถึง’ความหวังที่ลดน้อยลงของผู้นำจีนสำหรับข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ อย่างน้อยก็ในระยะสั้น’
ทรัมป์ เยาะเย้ยการตอบสนองล่าสุดของจีนว่า เป็นการแสดงความตื่นตระหนก ในโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย TruthSocialเขากล่าวว่า ‘จีน เล่นผิดวิธี พวกเขาตื่นตระหนก ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาไม่สามารถจ่ายได้!’ประธานาธิบดีกล่าวว่าเขาจะพิจารณาลดภาษีนำเข้าจากจีนหากปักกิ่งอนุมัติการขายแอปวิดีโอสั้น TikTok ให้กับนักลงทุนสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ปักกิ่งอาจไม่เห็นด้วยกับการขายครั้งนี้ “ศักดิ์ศรีของชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่ปักกิ่งพิจารณาใน TikTok แต่การแลกเปลี่ยน TikTok กับการบรรเทาภาระภาษีศุลกากรที่เพิ่งกำหนดขึ้นใหม่จะทำให้เกิดกลิ่นอายของผู้นำจีนที่ยอมจำนนต่อการกลั่นแกล้ง”วิลเดา กล่าว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Eurasia Group แนะนำว่าปักกิ่งยังคงต้องการข้อตกลงและพร้อมที่จะเจรจา “การตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรแบบรุนแรงและไม่สมดุลเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นที่ปักกิ่งจะต้องเข้าร่วมโต๊ะเจรจา” พวกเขาเสริม
สำนักข่าว People’s Daily ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ระบุในบทความแสดงความเห็น โดยไม่ได้ตัดทิ้งการเจรจากับสหรัฐฯ ออกไปโดยระบุว่า ปักกิ่งได้’เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในทุกด้านเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ช็อกที่อาจเกิดขึ้น’พร้อมทั้งมีนโยบายที่กว้างขวางในการปกป้องเศรษฐกิจของประเทศ
หนังสือพิมพ์ People’s Daily ซึ่งมักใช้ในการถ่ายทอดมุมมองนโยบายอย่างเป็นทางการ ได้ระบุแผนการของปักกิ่งในการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ”อย่างแข็งแกร่งเป็นพิเศษ” ลดอัตราดอกเบี้ยของนโยบายหลักเมื่อใดก็ตามที่จำเป็น และผ่อนปรนทางการคลังเพิ่มเติม
โอกาสที่ลดลงของข้อตกลงระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกต่ำลง ส่งผลให้ดัชนี Hang Seng China Enterprises ซึ่งติดตามหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง ร่วงลงกว่า 13% เมื่อวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นวันเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก
ข้อมูลของ LSEG ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปี ร่วงลง 9 จุดพื้นฐานสู่ระดับ 1.634% ขณะที่เงินหยวนนอกประเทศอ่อนค่าลง 0.35% สู่ระดับ 7.3212 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ
