พาณิชย์ เกาะติดนโยบายผู้สูงวัยฮ่องกง พบไทยมีโอกาสขายสินค้า ลงทุนธุรกิจบริการ
พาณิชย์ เกาะติดนโยบายผู้สูงวัยฮ่องกง พบไทยมีโอกาสขายสินค้า ลงทุนธุรกิจบริการ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เกาะติดนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจผู้สูงวัยของฮ่องกงเผยให้ความสำคัญ 5 ด้าน กระตุ้นการบริโภค ส่งเสริมอุตสาหกรรมและบริการ ส่งเสริมมาตรฐานสินค้าและบริการ พัฒนากลไกคุ้มครองทางการเงิน และส่งเสริมศักยภาพผู้สูงวัยในตลาดแรงงาน ชี้เป็นโอกาสของไทยในการส่งออกสินค้าไปขาย ลงทุนธุรกิจบริการ และดึงให้มาใช้บริการในไทย
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้าและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ล่าสุดได้รับรายงานจาก น.ส.พรรณกาณจน์ เจียมสุชน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ถึงการติดตามมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผู้สูงวัย (Silver Economy) ของฮ่องกง และโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสินค้าและบริการสำหรับผู้สูงวัยของไทยเข้าสู่ตลาดฮ่องกงและการดึงชาวสูงวัยของฮ่องกงเข้ามาใช้บริการเกี่ยวกับผู้สูงอายุในไทย
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า ล่าสุดนายจอห์น ลี คาชิว ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงได้มีการประกาศจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อทำแผนกระตุ้นการบริโภคในกลุ่มผู้สูงวัย และวางรากฐานด้านโครงสร้างเศรษฐกิจให้สอดรับกับ การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรแล้ว และยังได้เตรียมประกาศนโยบายสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ 1.กระตุ้นการบริโภคของกลุ่มผู้สูงวัย 2.ส่งเสริมอุตสาหกรรมและบริการที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงวัย 3.ส่งเสริมมาตรฐานคุณภาพของสินค้าและบริการในกลุ่ม Silver Economy 4.พัฒนากลไกคุ้มครองทางการเงินสำหรับผู้สูงวัย และ 5.ส่งเสริมศักยภาพและบทบาทของผู้สูงวัยในตลาดแรงงาน
ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจผู้สูงวัยถือเป็นตลาดผู้บริโภคที่มีศักยภาพสูงและภายในปี 2043 ประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะมีสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของประชากรทั้งเมืองซึ่งหมายความว่า ในเวลานั้นกว่าหนึ่งในสามของเศรษฐกิจภาคการบริโภคของฮ่องกงจะมาจากกลุ่มผู้สูงวัยและจะเป็นตลาดผู้บริโภคที่มีศักยภาพ ด้วยปัจจัยด้านเงินออม ความใส่ใจในคุณภาพชีวิต และความเต็มใจในการใช้จ่ายเพื่อตัวเอง ส่งผลให้เกิดความต้องการสินค้าและบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่บริการด้านสุขภาพ การเงิน ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นตลาดเศรษฐกิจผู้สูงวัยที่มีศักยภาพเป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รองจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย จากดัชนี Ageing Asia Silver Economy Index 2020–2025 และยังมีรายงานของ Ageing Asia บริษัทที่ปรึกษาในสิงคโปร์ ที่ประเมินว่า มูลค่าตลาดผู้สูงวัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวแตะระดับ 4.56 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 หรือเติบโตถึง 43%
“มาตรการของฮ่องกงในการส่งเสริมเศรษฐกิจผู้สูงวัย โดยเน้น 5 ด้านหลักนั้น เป็นการปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มในอนาคต ซึ่งตลาด Silver Economy จะขยายใหญ่ขึ้น และกำลังกลายเป็นหนึ่งในแนวโน้มเศรษฐกิจที่สำคัญในหลากหลายประเทศ ผู้สูงวัยในฮ่องกงเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากมีเงินออมสะสม ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต และมีความเต็มใจที่จะใช้จ่ายเพื่อตนเองทำให้เกิดความต้องการสินค้าและบริการที่ครอบคลุมหลายด้าน เช่น การดูแลสุขภาพ บริการทางการเงินที่อยู่อาศัย และการดูแลส่วนบุคคล
ซึ่งจากความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ สามารถเป็นโอกาสทางการค้าของไทย ซึ่งมีศักยภาพในการส่งออกสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและสมุนไพรและยังมีโอกาสลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบริการดูแลผู้สูงวัย เช่น Medical Tourism ที่จะช่วยดึงดูดผู้สูงวัยจากฮ่องกงให้เข้ามารับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพในไทยได้”น.ส.สุนันทากล่าว
