REIC ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย มีค่า 159.1 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4
REIC ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย มีค่า 159.1 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4
บทวิเคราะห์ : ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำบทวิเคราะห์ เรื่อง`ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล`พบว่า มีค่าดัชนีเท่ากับ 159.1 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาห้องชุดให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนก่อสร้าง ทั้งราคาวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็กเส้น ปูนซีเมนต์ กระจกอลูมิเนียม และค่าแรงงานที่ทยอยเพิ่มขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพ รวมถึงราคาที่ดินในทำเลศักยภาพ ซึ่งยังคงขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้ระบบขนส่งมวลชน ศูนย์กลางธุรกิจ และพื้นที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ซึ่งล้วนเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมจากทั้งผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) พบว่า ราคาห้องชุดปรับตัวลดลงร้อยละ -0.8 การปรับลดราคานี้อาจเป็นผลมาจาก เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ในบางพื้นที่ ซึ่งสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของอาคารสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งชะลอการตัดสินใจซื้อเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นและเร่งการตัดสินใจซื้อ
ผู้ประกอบการจึงเพิ่มมาตรการส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะการให้ส่วนลดเงินสด ที่มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 37.5 เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากร้อยละ 15.4 ในไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังมีการจัดแถมประกันภัยอาคารให้กับผู้ซื้อในสัดส่วนร้อยละ 3.4 ของโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย ซึ่งคาดว่า การปรับลดราคาเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวในระยะสั้น ก่อนที่ตลาดจะปรับตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
โดยดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 เมื่อแยกตามพื้นที่ พบว่า
- กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 162.2 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ลดลงเพียงเล็กน้อยร้อยละ -0.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) ทำให้ในภาพรวมยังทรงตัวในทิศทางขาขึ้น (Sideway–up) ซึ่งทำเลที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ได้แก่ ทำเลสุขุมวิทตอนต้น ในระดับราคา 5.00 – 7.50 ล้านบาท
- 2 จังหวัดปริมณฑล (สมุทรปราการ และนนทบุรี) มีค่าดัชนีเท่ากับ 145.6 จุด ลดลงร้อยละ -1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และลดลงร้อยละ -1.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) ซึ่งโซนที่มีการปรับราคาลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ได้แก่ เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด ในระดับราคา 1.51 – 2.00 ล้านบาท (รายละเอียดตามตารางที่ 1 แผนภูมิที่ 1 และ 2)
สำหรับ รายการส่งเสริมการขายห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นของสมนาคุณ ร้อยละ 38.5 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 64.8 สำหรับรูปแบบการให้ส่วนลดฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ มีสัดส่วนร้อยละ 20.7 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 19.8 และการส่งเสริมการขายโดยการให้ส่วนลดเงินสด มีสัดส่วนร้อยละ 37.5 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 15.4 นอกจากนี้ยังมีการแถมประกันภัยอาคารเพราะว่าผู้ซื้ออาจจะมีความกังวลจากเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 3.4 (รายละเอียดตามแผนภูมิที่ 3)
วิธีการจัดทำข้อมูล
ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย หมายถึง ราคาห้องชุดในโครงการอาคารชุด ที่มีหน่วยเหลือขายตั้งแต่ 6 หน่วยขึ้นไป โดยในการจัดทำดัชนีราคานี้ไม่นับรวมห้องชุดมือสอง พื้นที่ในการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล (นนทบุรี และสมุทรปราการ)
การสุ่มตัวอย่างเพื่อการจัดทำดัชนีราคานี้ จะใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) จำนวน 150 ตัวอย่าง ราคาขายที่นำมาจัดทำเป็นดัชนี เป็นราคาขายที่แท้จริง ซึ่งได้หักลบมูลค่ารายการส่งเสริมการขายออกจากราคาที่ประกาศขายแล้ว โดยใช้ราคาปี 2555 เป็นปีฐาน
