หมวดหมู่: บทวิเคราะห์

4251 ASPS Global Daily


บล.เอเซีย พลัส l บทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนหุ้นต่างประเทศรายวัน Global Daily Insight 10 เมษายน 2568

          ● วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาปรับตัวขึ้นแรง (S&P500 +9.52%, Dow Jones +7.87% และ Nasdaq +12.16%) หลัง Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) เป็นเวลา 90 วัน และยังลดภาษีตอบโต้ลงสู่ระดับ 10% ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นแรง นำโดย Tesla +22.69%, Nvidia +18.72%, และ Apple +15.33% อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นภาษีตอบโต้จีนสู่ระดับ 125% โดยอ้างถึงจีนที่ได้มีการขึ้นภาษีโต้ตอบกับสหรัฐฯ ขณะที่ประเทศอื่นๆ เน้นไปที่การขอเจรจา 

          ● Trump ระบุผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า สหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราสูงถึง 125% (จากเดิมที่ระดับ 104%) โดยมีผลทันที ขณะเดียวกันยังประกาศมาตรการผ่อนปรนสำหรับประเทศอื่น ด้วยการลดภาษีตอบโต้เหลือ 10% และขยายระยะเวลาผ่อนผันเป็น 90 วัน ว่า สำหรับกว่า 75 ประเทศ ถือเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ยังพร้อมเปิดพื้นที่เจรจาในเชิงบวกกับประเทศที่มีท่าทีร่วมมือ และยังไม่มีมาตรการตอบโต้ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่แห่งการพูดคุยและเจรจา

          ● ด้านสำนักงานคณะกรรมการภาษีศุลกากรของสภาแห่งรัฐจีน ประกาศเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ สู่ระดับ 84% (จากเดิมที่ระดับ 34%) โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 เม.ย. โดยการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวเพื่อโต้ตอบต่อการที่สหรัฐฯ เริ่มมีการบังคับใช้ภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 104% นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ได้ระบุว่า “จีนขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ ทำการแก้ไขในสิ่งที่ผิดโดยทันที รวมทั้งยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรแต่เพียงฝ่ายเดียวที่มีการบังคับใช้ต่อจีน และแก้ไขความขัดแย้งผ่านทางการเจรจาบนพื้นฐานที่เท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน” 

          ● ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศมาตรการโต้ตอบภาษีสหรัฐฯ ในอัตรา 25% กับหลากหลายสินค้า อาทิ สัตว์ปีก ธัญพืช เสื้อผ้า และโลหะ โดยจะแบ่งเป็น 3 ระยะ โดยในระยะแรกจะเรียกเก็บภาษีต่อแครนเบอร์รีและน้ำส้ม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 เม.ย. ส่วนระยะที่ 2 จะเรียกเก็บภาษีต่อเหล็ก เนื้อ ช็อกโกแลตขาว และสารโพลีเอทิลีน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 พ.ค. ส่วนระยะที่ 3 จะเรียกเก็บภาษีต่ออัลมอนด์และถั่วเหลือง โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค. Fed 

          ● เปิดเผยสรุปการประชุม FOMC Minutes ของรอบการประชุมวันที่ 18-19 มี.ค. ที่ผ่านมาโดย Fed ระบุว่า อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวและอัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น Fed อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ หลัง Trump ประกาศชะลอการจัดเก็บภาษีนำเข้าตอบโต้ในอัตราสูงออกไป ทำให้ตลาดการเงินกลับมาให้น้ำหนักกว่า 80% ว่า Fed มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือน พ.ค. จากวันก่อนหน้าที่น้ำหนักมีอยู่เพียงราว 50% 

          ● ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps สู่ระดับ 6.00% สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่สหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) โดยได้เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียในอัตรา 26%

 

อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม >> Global Daily Insight

 

 

4251

Click Donate Support Web 

PTG 720x100

MTI 720x100

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100pxAXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!