หมวดหมู่: งานวิจัยเศรษฐกิจ

4198 FETCO


ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนคงอยู่ในเกณฑ์ ‘ซบเซา’ นักลงทุนคาดหวังปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ปัจจัยฉุดคือความขัดแย้งระหว่างประเทศและเศรษฐกิจไทยถดถอย

          นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนมีนาคม 2568 (สำรวจระหว่างวันที่ 21-31 มีนาคม 2568) พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้ายังคงอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ที่ระดับ 60.93 นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และแนวโน้มการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ และสงครามการค้า

          ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือนมีนาคม 2568 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้ 

          ● ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (มิถุนายน 2568) อยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” (ช่วงค่าดัชนี 40-79) ที่ระดับ 60.93

          ● ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคลอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซาอย่างมาก” กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ในขณะที่กลุ่มกลุ่มนักลงทุนสถาบัน อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” 

          ● หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดธนาคาร (BANK)

          ● หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดเหล็ก (STEEL)

          ● ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

          ● ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ

          “ผลสำรวจ ณ เดือนมีนาคม 2568 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคล ปรับลด 22.4% อยู่ที่ระดับ 38.81 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 20.0% อยู่ที่ระดับ 60.00 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับลด 3.7% อยู่ที่ระดับ 111.11 และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศทรงตัวอยู่ที่ระดับ 66.67

          ตลาดทุนไทยในเดือนมีนาคม 2568 เผชิญกับความท้าทายจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กลับมาทวีความรุนแรงขึ้น ความกังวลต่อการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาที่กระทบถึงกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งกระทบต่อทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุน และต่อการดำเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพและความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่อง โดย SET Index ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 ปิดที่ 1,158.09 ปรับตัวลดลง 3.8% จากเดือนก่อนหน้า ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ 38,491 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 21,852 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 39,978 ล้านบาท

          ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตามได้แก่ ความกังวลเรื่องสงครามการค้าและความไม่แน่นอนในการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ รวมถึงการตอบโต้ของประเทศที่ถูกเพิ่มภาษีดังกล่าว ความขัดแย้งในยูเครนและรัสเซียที่ยังไม่คลี่คลาย และการปรับขึ้นของราคาทองคำ ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ สัญญาณตัวเลขเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนภาคเอกชนที่เริ่มอ่อนแอลง ความเป็นไปได้ในของภาครัฐการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวที่จะมีต่อความเชื่อมั่นในเรื่องต่างๆ”

 

 

4198

Click Donate Support Web 

PTG 720x100

MTI 720x100

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100pxAXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!